แพ็คกระเป๋า สัมผัสลมหนาว เสพงานศิลป์ Chiang Mai Design Week 2025 ภายใต้แนวคิด “LOCAL PLUS” พลังท้องถิ่น ต่อยอดสู่การเติบโตอย่างไม่รู้จบ - ที่นี่ สุขภาพดี | Healthy Station

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Sunday, December 7, 2025

แพ็คกระเป๋า สัมผัสลมหนาว เสพงานศิลป์ Chiang Mai Design Week 2025 ภายใต้แนวคิด “LOCAL PLUS” พลังท้องถิ่น ต่อยอดสู่การเติบโตอย่างไม่รู้จบ

ร่วมสัมผัสลมหนาว เดินเสพงานศิลป์ส่งท้ายปี ในงานเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2568 (Chiang Mai Design Week 2025) ภายในงานเต็มไปด้วย “จิตวิญญาณท้องถิ่นภาคเหนือ” พร้อมสื่อสารคำว่า “LOCAL PLUS” ออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรมแบบทรงพลัง ด้วยความคิดและผลงานของนักสร้างสรรค์ที่ถักทอออกมาในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น มิติสัมผัสที่ปลายจมูกกับ “กลิ่นหอม” สะท้อนมุมมองประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และพืชพรรณท้องถิ่น ต่อด้วยพลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Wellness สู่มิติการรับรู้และเข้าใจถึง “บ้านในฝัน” ที่ออกแบบเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ ตลอดจนความร่วมมือพื้นที่แสดงผลงานผ่านวัฒนธรรมระหว่างประเทศ ไปจนถึงมิติการฟังที่จะพาไปขยับร่างกายกับเทศกาลดนตรีสุดพิเศษที่รวมศิลปินจากทั่วภาคเหนือและต่างประเทศไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสร้างสรรค์อีกมากมายมากกว่า 150 โปรแกรม ทั้งนี้ตลอดเทศกาลฯ ยังแสดงให้เห็นถึงการเป็น “พื้นที่ทดลอง” ให้ผู้คนจากหลากหลายสาขาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์มาร่วมกันตั้งคำถาม แสดงศักยภาพ และสามารถมองเห็นโอกาสใหม่จากทุนทางวัฒนธรรมให้เติบโตและได้รับการต่อยอดอย่างไร้ขีดจำกัด โดยงานจัดขึ้น ณ ย่านกลางเวียง, ช้างม่อย-ท่าแพ และ สันป่าข่อย จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันนี้ จนถึง 14 ธันวาคม 2568


สำหรับหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของงานนี้ คือ กลิ่นในฐานะภาษาท้องถิ่น:  Make Scents, Make Sense “สร้างกลิ่น สร้างถิ่น สร้างอนาคต” นิทรรศการที่จะทำให้กลิ่นหอมลอยฟุ้งทั่วบรรยากาศอันหนาวเย็น โดย CEA สำนักภาคเหนือ ร่วมกับสมาคมสุคนธกรไทย (Thai Perfumers) และห้องปฏิบัติการสกัดน้ำหอมสยาม LOSIam (Laboratoire Olfactif du Siam) สร้างสรรค์นิทรรศการที่ชวนสัมผัส “กลิ่นหอม” ในฐานะทุนสร้างสรรค์ของไทยที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Wellness และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้วยพลังแห่งกลิ่นหอมจากธรรมชาติ ที่จะถูกนำเสนอผ่าน 3 เรื่องราว ได้แก่ 1.Make Scents: เปิดโลกของศาสตร์และศิลป์แห่ง “กลิ่น” ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อสำรวจประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และอุตสาหกรรมน้ำหอม ที่หลอมรวมวัฒนธรรมและอัตลักษณ์จากทั่วโลก 2.Make Sense: นำ “กลิ่น” กลับสู่รากเหง้า ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อถ่ายทอดบทบาทของกลิ่นผ่านพืชพรรณท้องถิ่นจากภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ในฐานะเครื่องมือสร้างมูลค่าใหม่ให้แก่เกษตรกรไทย 3.Make Scents, Make Sense: เชื่อมโยงศิลปะ วิทยาศาสตร์ และจินตนาการเข้าด้วยกัน แสดงให้เห็นว่า “กลิ่น” คือพลังแห่งวัฒนธรรมที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคตได้อย่างแท้จริง

 



สปอตไลต์: พื้นที่แสดงผลงานนานาชาติและความร่วมมือด้านวัฒนธรรม จากหลายประเทศทั่วเอเชียและยุโรป ถ่ายทอดพลังสร้างสรรค์จากมุมมองหลากวัฒนธรรมและผลักดันให้เชียงใหม่เป็นเวทีเชื่อมต่อเครือข่าย Creative Economy ระดับภูมิภาค โดยนำเสนอผลงานที่น่าสนใจมากมาย เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 10.00 – 22.00 น. เช่น 

 

1. Tai หวาน Beats: Music Scene Exhibition ณ หอกลางเวียง ความร่วมมือระหว่างไทย–ไต้หวัน ใช้ “ดนตรี” นำเสนอผลงานออกแบบร่วมสมัย โดดเด่นด้วยองค์ประกอบแบบ Interactive และ Immersive 

 

2. Yumeie Dream House Project ณ หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ พบความร่วมมือระหว่าง TCDC Chiang Mai และ Design and Creative Center Kobe (KIITO) ประเทศญี่ปุ่น ส่งผลงานจาก Workshop: Yumeie Dream House Project นำเสนอกระบวนการเรียนรู้ที่เยาวชนจะได้เรียนรู้ออกแบบบ้านสำหรับ “New Norm” พร้อมรับมือกับปัญหาภัยพิบัติ ผ่านกระบวนการ Head Hand Heart (ความคิด ทักษะ และทัศนคติ) พร้อมชม mini Exhibition จาก KIITO

 

3. RTBC |  Russian Soul: modern heritage ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ นิทรรศการ “Russian Soul: modern heritage” แสดงมรดกงานช่าง ศิลปะพื้นบ้าน และภูมิปัญญาที่สั่งสมมายาวนานของประเทศรัสเซีย ซึ่งถูกตีความใหม่ให้มีความร่วมสมัย ทั้งในเชิงความงามและเทคโนโลยี 

 

4. NEHHDC | North East India (Asthalakshmi) Pavilion ณ หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ จากองค์กรพัฒนางานหัตถกรรมและผ้าทอมือแห่งภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ NEHHDC ประเทศอินเดีย นำผลงานหัตถกรรมหลากหลายประเภท อาทิ งานผ้าทอ งานจักสาน เครื่องประดับทำมือ ผ้าไหม Eri และการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ 

 

5. เส้นทางใหม่หางโจว The New Hangzhou Line ณ หอกลางเวียง หางโจวประเทศจีน เส้นทางแห่งจินตนาการเชื่อมงานหัตถกรรมและการออกแบบร่วมสมัยไว้ด้วยกัน ภายใต้แนวคิด The New Hangzhou Line พร้อมเวิร์กช็อปสุดพิเศษที่จะพาสำรวจโลกของงานฝีมือแบบหางโจวผสานมรดกวัฒนธรรมสู่การถักทอความคิดสร้างสรรค์สู่อนาคต

 

6. นิทรรศการศิลปะไฟนีออนโดยสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ณ ห่าน สตูดิโอ Fractured Galaxy โดย ไจลส์ ไรเดอร์ ศิลปินผู้หลงใหลและผูกพันธ์กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างยาวนาน  นำเสนอผลงานผ่านศิลปะจากแสงไฟนีออน สะท้อนสถาปัตยกรรม วัฒนธรรมไทย และผูกพันธ์ในหลากหลายมิติ

 

7. The Eternal Elegance ความวิจิตรอันเป็นนิรันดร์ ณ หอกลางเวียง ซึ่ง สปป.ลาว นำเสนอเรื่องราว “ความวิจิตรอันเป็นนิรันดร์” เชื่อมโยงแรงบันดาลใจจากความเชื่ออันลึกซึ้งเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมและเทพปกรณัมอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพระบางที่ถูกเนรมิตรผ่านผืนผ้าไหมที่ยังคงรักษาอัตลักษณ์ ผสมผสานความร่วมสมัยไว้ด้วยกัน ซึ่งสะท้อนความประณีตบรรจงและจิตวิญญาณอันงดงามของช่างฝีมือชาวลาวอย่างแท้จริง

 

8. CRAFTed of Taste ณ หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ ร่วมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างประเทศไทยและฝรั่งเศส ผ่านการร่วมมือรังสรรค์ผลงานเซรามกจากศิลปินทั้งสองประเทศ ที่ผสมผสานศิลปะและวัฒนธรรมอาหารเหนือผ่านมุมมองร่วมสมัย มาพร้อมกับกิจกรรมเสวนา  เวิร์กช็อป และงานเลี้ยงอาหารค่ำสุดพิเศษ “On y mange!” 

LOCAL PLUS: จากทุนท้องถิ่นสู่อนาคตของเมือง นี่คือบทบาทของเทศกาลออกแบบเชียงใหม่ในวันนี้ สถานที่ที่ไม่ใช่แค่เทศกาลรวบรวมผลงานสร้างสรรค์มาจัดแสดง แต่คือพื้นที่ที่ช่วยให้ผู้คนเชียงใหม่ และภูมิภาคเหนืออื่น ๆ มาร่วมทดลอง และออกแบบอนาคตร่วมกัน เพื่อก้าวสู่อนาคตที่เติบโตจากทุนท้องถิ่นที่เรามี และขยายต่อไปอย่างไม่รู้จบ ด้วยพลังของคำว่า “PLUS” ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Website: www.chiangmaidesignweek.com, Facebook: Chiang Mai Design Week, Instagram: Chiang Mai Design Week และ TikTok: Chiang Mai Design Week


#LocalPlus #ChiangMaiDesignWeek #CMDW2025 #เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่


No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad



Pages