กรมพัฒนาธุรกิจฯ ฝากแจ้งผู้ทำบัญชี! รีบต่ออายุสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีปี 2569 ก่อนสิ้นปีนี้ มิฉะนั้นมีสิทธิ์พ้นสถานะผู้ทำบัญชี เมื่อประกาศกรมฯ ฉบับใหม่บังคับใช้ 1 ม.ค. 2569 - ที่นี่ สุขภาพดี | Healthy Station

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Tuesday, December 2, 2025

กรมพัฒนาธุรกิจฯ ฝากแจ้งผู้ทำบัญชี! รีบต่ออายุสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีปี 2569 ก่อนสิ้นปีนี้ มิฉะนั้นมีสิทธิ์พ้นสถานะผู้ทำบัญชี เมื่อประกาศกรมฯ ฉบับใหม่บังคับใช้ 1 ม.ค. 2569

 


อังคารที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 น. 

 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตือนผู้ทำบัญชีให้รีบดำเนินการต่ออายุสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีประจำปี 2569 ก่อนสิ้นปี 2568 เพื่อไม่ให้ขาดคุณสมบัติของผู้ทำบัญชี และคงสถานะการเป็นผู้ทำบัญชีอย่างต่อเนื่อง เมื่อประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง กำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชี พ.ศ. 2568 (ฉบับใหม่) มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2569


 นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผู้ทำบัญชีเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะนิติบุคคลอย่างห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด และบริษัทมหาชน ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีตามกฎหมาย และต้องจัดหาผู้ทำบัญชีที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนดมาเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำบัญชีให้เพื่อแสดงผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน หรือการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินตามที่เป็นอยู่ ถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชี ซึ่งพระราชบัญญัติการบัญชีได้กำหนดให้ผู้ทำบัญชีต้องมีคุณสมบัติและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด


 อธิบดีพูนพงษ์ฯ กล่าวต่อว่า “คุณสมบัติหนึ่งของผู้ทำบัญชีคือ ต้องเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี ซึ่งอายุสมาชิกสภาฯ จะหมดทุกสิ้นปีปฏิทิน ผู้ทำบัญชีจะต้องต่ออายุสมาชิกสภาฯ ของปีถัดไปให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ธันวาคม ของปีปัจจุบัน ดังนั้น การต่ออายุสมาชิกสภาฯ ประจำปี 2569 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ผู้ทำบัญชีจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 เพื่อจะได้ไม่ขาดคุณสมบัติของการเป็นผู้ทำบัญชี สามารถรับทำบัญชีให้กับธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญยังคงสถานะเป็นผู้ทำบัญชีต่อไปเมื่อประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง กำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชี พ.ศ. 2568 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2569 และได้รับการยกเว้นไม่ต้องทดสอบผ่านระบบงานผู้ทำบัญชี (e-Accountant)  โดยการต่ออายุสมาชิกสภาฯ สามารถดำเนินการได้ที่เว็บไซต์สภาวิชาชีพบัญชี www.tfac.or.th”

 “นอกจากผู้ทำบัญชีจะต้องคงคุณสมบัติของการเป็นผู้ทำบัญชีแล้ว ยังต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด สำหรับช่วงสิ้นปีที่ใกล้มาถึงนี้ ขอให้ผู้ทำบัญชีตรวจสอบจำนวนชั่วโมงการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชี หรือชั่วโมง CPD ประจำปี 2568 ของตนเองให้ครบ อย่างน้อย 12 ชั่วโมง โดยต้องมีชั่วโมงด้านบัญชีไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมงตามที่กฎหมายกำหนด หากยังไม่ครบจะต้องรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 และแจ้งชั่วโมง CPD ได้ทันทีหลังทำกิจกรรม แต่ไม่เกิน 30 มกราคมของปีถัดไป โดยสามารถแจ้งชั่วโมง CPD ได้ 2 ช่องทาง คือ ผ่านทางระบบ e-Accountant ของกรมฯ หรือระบบ CPD Online ของสภาวิชาชีพบัญชี”


 “โอกาสนี้ ขอแจ้งเตือนให้ผู้ทำบัญชีสำรวจคุณสมบัติของตนเองว่าต่ออายุสมาชิกสภาฯ หรือเก็บชั่วโมง CPD ครบถ้วนแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ หากผู้ทำบัญชีขาดคุณสมบัติจะส่งผลต่อสถานะการเป็นผู้ทำบัญชีทันที หรือหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชีจะมีบทลงโทษตามกฎหมายปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และอาจประพฤติผิดจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีอีกด้วย”


 “กรมฯ ได้ดูแลผู้ทำบัญชีมาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างมาตรฐานผู้ทำบัญชีไทยให้เป็นที่ยอมรับ และขอความร่วมมือผู้ทำบัญชีอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน หากมีการรับทำบัญชีให้กับนิติบุคคลรายใดจะต้องแจ้งการรับทำบัญชีผ่านทางระบบงานผู้ทำบัญชี (e-Accountant) ภายใน 30 วัน นับแต่วันเริ่มทำบัญชี และหากเลิกรับทำบัญชีให้นิติบุคคลรายนั้นแล้ว ต้องแจ้งยกเลิกทำบัญชี ภายใน 30 วัน นับแต่วันยกเลิกทำบัญชีเช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อให้ข้อมูลการรับทำบัญชีมีความถูกต้องและตรงตามความเป็นจริง”


“ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568) ประเทศไทยมีผู้ทำบัญชีประมาณ 80,344 คน ซึ่งรับทำบัญชีให้ธุรกิจกว่า 980,000 ราย จึงขอให้ผู้ทำบัญชีตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองและการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เพราะผู้ทำบัญชีมีบทบาทสำคัญต่อรายงานทางการเงินของธุรกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความน่าเชื่อถือให้กับผู้รับบริการรวมถึงผู้ที่ใช้ผลงานของผู้ทำบัญชีด้วย” อธิบดีพูนพงษ์ฯ กล่าวทิ้งท้าย


 ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th เมนู บริการออนไลน์ ผู้ทำบัญชี (e-Accountant) หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนส่งเสริมพัฒนาวิชาชีพบัญชี กองกำกับบัญชีธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หมายเลขโทรศัพท์ 0 2547 4395 และ สายด่วน 1570 


#SuperDBD #กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #กระทรวงพาณิชย์

******************************************

ที่มา : กองกำกับบัญชีธุรกิจ                                                            ฉบับที่ 59 /วันที่ 2 ธันวาคม 2568

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad



Pages